รักษาผมร่วง บาง ศีรษะล้าน ด้วยเทคนิค Hair transplant (NanoTrim FUE) ย้ายเซลล์รากผม

ย้ายเซลล์รากผม แก้ปัญหาผม ร่วง บาง รักษาด้วยเทคนิค FUE ได้ผลดี ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องผ่าตัด คืนความมั่นใจให้กับทรงผม

ผมขึ้นใหม่มั่นใจ รักษาแบบไร้รอยแผล การรักษาทางเลือกของผู้มีปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยการปลูกผมเทคนิคย้ายราก Hair transplant (NanoTrim FUE) เป็นการรักษาแบบไม่ผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา ไม่ต้องกินยาต้านฮอร์โมน ซึ่งผลค้างเคียงในบางท่านอาจพบผลข้างเคียงของการเสื่อมสมรรถนะทางเพศได้

ปลูกผมโดย เทคนิค Hair transplant (NanoTrim FUE) คือ การย้ายเซลล์รากผมโดยการเจาะ ทำการวางคร่อมกอผม และทำการเจาะกดทีละกอ จากนั้นก็ใช้คีมปลายแหลม คีบผมขึ้นมาพร้อมเซลล์รากผม แล้วก็นำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ โดยก่อนนำรากผมไปปลูกจะทำการคัดรากผมผ่านกล้องจุลทรรศน์ทุกรากและตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินออกเพื่อให้เหลือเฉพาะรากผมที่ดีสมบูรณ์จริงๆ และหลังปลูกสวยงาม ผิวช้ำน้อยเลือดออกน้อยมาก 

ปลูกผมโดย เทคนิค Non shaven NanoTrim FUE คือ การย้ายเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอย ไปปลูกบริเวณมีผมบาง การนำผมบริเวณด้านท้ายทอยมาใช้ โดยเลือกแบ่งโซนเก็บผมแบบขั้นบันได้ เพราะบริเวณดังกล่าวไม่มี ตัวรับฮอร์โมน ดังนั้นผมที่ย้ายไป จะไม่มีปัญหาผมร่วงตามมาในอนาคต

เลือกอ่านหัวข้อการรักษาผมร่วง บาง ศีรษะล้าน ด้วยเทคนิค Hair transplant (NanoTrim FUE)

• ขั้นตอนการรักษาด้วยการปลูกผมแบบ NanoTrim FUE
• ผู้ที่เหมาะกับการปลูกผมแบบ NanoTrim FUE
• ข้อดีของการปลูกผมแบบ NanoTrim FUE
• ข้อจำกัดของการปลูกผมแบบ NanoTrim FUE
• การเตรียมตัวก่อนทำ
• การดูแลตัวเองหลังทำ

ขั้นตอนการรักษาด้วยการปลูกผมแบบ Nanotrim FUE

ปัจจุบันการรักษาแบบเก่าไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะมีแผลเป็น จึงมีการคิดค้นเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า การรักษาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน โดยไร้รอยแผล ปลูกผมไม่แบบตัดตัด โดยวิธีนี้ใช้เครื่องมือพิเศษที่มีหัวเจาะ เจาะหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยเพียงจุดละเล็กกว่าหนึ่งมิลลิเมตรเท่านั้น ไม่มีแผลเป็นแนวยาว เจ็บน้อย แล้วนำเอารากผมดังกล่าวย้ายมารักษาบริเวณที่มีศีรษะล้านซึ่งมีจุดเล็กมาก แทบมองไม่เห็น วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ เพราะผมที่ขึ้นเสมือนกับเส้นผมที่งอกออกมาจากหนังศรีษะเอง อาจใช้เวลาในการรักษาหลายชั่วโมงเนื่องจากต้องเอาเครื่องมือมาเจาะทีละเส้น ชั่วโมงหนึ่งทำได้ประมาณ 50 เส้น ซึ่งเทคนิค และเทคนิค Non shaven FUE จะต่างกันในขั้นตอนแรก FUE ธรรมดาจะใช้วิธีโกนหลังศีรษะเผื่อคัดเลือกเซลล์รากผม ส่วน Non shaven FUE จะใช้เครื่องมือพิเศษในการเจาะเผื่อคัดเลือกเซลล์รากผมโดยไม่ต้องโกนศีรษะบริเวณท้ายทอย ทำให้ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้นนาน

ขั้นตอนที่ 1
แพทย์จะทำการคัดเลือกกลุ่มเส้นผมแข็งแรงจากแนวผมบริเวณท้ายทอยด้านหลังด้วยอุปกรณ์ไมโครขนาดเล็ก

ขั้นตอนที่ 2
เมื่อได้เซลล์รากผมบริเวณด้านหลังศีรษะแล้ว ผู้เชี่ยวชาญจะทำการคัดแยกแต่ละเซลล์ อย่างระมัดระวัง ทำให้ได้เส้นผมเดี่ยวพร้อมรากผม เพื่อนำไปแช่น้ำยาพิเศษ ช่วยให้รากผมมีความแข็งแรง

ขั้นตอนที่ 3
ขั้นตอนปลูกผมแพทย์จะนำเซลล์รากผมที่ได้ย้ายมาปลูกยังบริเวณที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน บริษเวณหน้าผากที่กว้าง  หรือตกแต่งไรผมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเด็กขึ้น

หลังปลูก จากนั้น 1 เดือน จะมีการผลัดแกนผม เส้นผมที่เราย้ายมาใหม่จะเริ่มมีการหลุดร่วง ซึ่งถือว่าเป็นปกติสำหรับการปลูกผม เพราะสิ่งที่เราต้องการในการปลูกผม คือ รากผม ถ้ารากผมยังคงอยู่ภายใต้ผิวหนังที่เราฝังไว้ เมื่อถึงเวลาตามธรรมชาติ ประมาณเดือนที่ 4 หลังปลูก เส้นผมใหม่จะเริ่มงอกมาจากผิวหนังบริเวณที่ปลูกออกมาเรื่อยๆ และอยู่ถาวรตลอดไป

ผู้ที่เหมาะกับการปลูกผมแบบ FUE

• บุคคลที่มีปัญหาผมบางหรือแก้ไขเฉพาะจุด เช่น ปรับรูปหน้า
• ผู้ที่ต้องการปลูกผมโดยไม่มีร่องรอยแผลเป็นหลังการรักษาและมีเวลาพักฟื้นน้อย
• เหมาะแก่ผู้ที่ต้องปลูกผมเพียงเล็กน้อยตั้งแต่ 1,000 กราฟเป็นต้นไป เช่น ปลูกคิ้ว ปลูกไรหน้าผาก หรือปลูกปิดแผลเป็นบนหนังศีรษะ เป็นต้น

การเตรียมตัวก่อนทำ

1. การพักผ่อนให้เพียงพอ
2 หยุดทานวิตามิน ยา หรืออาหารเสริมบางชนิดที่ทำให้เลือดหยุดยาก ควรหยุดทานก่อนการปลูกผมประมาณ 1-2 สัปดาห์
3. หากเป็นคนที่สูบบุหรี่ในปริมาณมาก ควรงดการสูบบุหรี่ หรืองดสูบไปเลยก่อนช่วงการทำการรักษา 1 สัปดาห์
4. ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ ควรหยุดดื่มก่อนการปลูกผมประมาณ 3-4 วัน เพราะจะทำให้เลือดไหลแล้วหยุดยาก เป็นอุปสรรคระหว่างการทำปลูกผม

การดูแลตัวเองหลังทำ 

1. ไม่ให้โดนน้ำและไม่ให้สระผม 2 วัน
2. รับประทานยาตามแพทย์สั่ง และงดกลุ่มยา aspirin 1 สัปดาห์
3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2-3 วัน หลังผ่าตัด
4. ควรนอนยกศีรษะสูง 30 องศา หรือหนุนหมอน 2-3 ใบ เพื่อลดอาการปวดบวมในช่วงแรก เละใช้หมอนใบเล็กรองต้นคอ เพื่อลดแรงกดที่แผลบริเวณท้ายทอย
5. ควรสวมหมวก เวลาออกจากที่พัก เพื่อป้องกันแสงแดด และฝุ่นควัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
6. งดออกกำลังกาย และยกของหนัก 1 สัปดาห์ งดอากาศร้อนจัด เช่น อบซาวน่า หรือ สตรีม 1 เดือน
7. ไม่ควรแกะ เกา บริเวณสะเก็ดและกราฟผม เพราะจะทำให้กราฟหลุด และอาจติดเชื้อได้
8. ด้วยเทคนิค NanoTrim FUE ที่ทันสมัย ไม่มีการลงมีด ไม่มีการเย็บแผล แผลขนาดเล็กเท่ารูเข็มของ NanoTrim FUE จะปิดเองได้อัตโนมัติภายใน 3 วัน

ข้อดีของการปลูกผมแบบ FUE

• ไม่มีรอยแผลเป็นแนวยาว และแผลที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ ขนาดไม่ถึง 1 มิลลิเมตรเท่านั้น
• เจ็บน้อย แผลหายไว ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
• ไม่ต้องทานยา ไม่ต้องผ่าตัด
• ทำการรักษาได้เรื่อยๆ ถ้าต้องการเพิ่มเส้นผม
• ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเพราะไม่ต้องผ่าตัด

ข้อจำกัดของการปลูกผมแบบ FUE

• คนไข้ต้องมีเส้นผมที่แข็งแรงบริเวณท้ายทอย
• หากมีการอักเสบ หรือติดเชื้อ บนศีรษะ แนะนำให้รักษาให้หายจนเป็นปกติก่อน 

PROMOTION เคสรีวิว

NanoTrim-FUE (Follicular Unit Extraction) 1,000 ราก

ปลูก จอน/คิ้ว/เฉพาะจุด ไม่เกิน 1,000 ราก ปลูก 1,000 ราก*100 บาท ราปกติ 100,000 บาท
ฉายแสงกระตุ้นรากผมให้ 3 ครั้ง* 3,000 บาท ราก ปกติ 9,000 บาท
โกรธแฟคเตอร์กระตุ้นการติดของผม 3 ครั้ง ปกติ 5,000 บาท
ตรวจเลือดก่อนผ่าตัด ราคา 5,000 บาท
ยากลับบ้าน ราคา 550 บาท

รวมราคา 129,550 บาท

ราคาเคสรีวิว 59,000 บาท ลด 54%

NanoTrim-FUE (Follicular Unit Extraction) 2,000 ราก

จำนวน ไม่เกิน 2,000 ราก ปลูก 2,000 ราก*100 บาท ราปกติ 200,000 บาท
ฉายแสงกระตุ้นรากผมให้ 3 ครั้ง* 3,000 บาท ราก ปกติ 9,000 บาท
โกรธแฟคเตอร์กระตุ้นการติดของผม 3 ครั้ง ปกติ 15,000 บาท
ตรวจเลือดก่อนผ่าตัด ราคา 5,000 บาท
ยากลับบ้าน ราคา 550 บาท

รวมราคา 229,550 บาท

ราคาเคสรีวิว 79,000 บาท ลด 66%

NanoTrim-FUE (Follicular Unit Extraction) 3,000 ราก

รักษา ไม่เกิน 3,000 ราก ปลูก 3,000 ราก*100 บาท ราปกติ 300,000 บาท
ฉายแสงกระตุ้นรากผมให้ 3 ครั้ง* 3,000 บาท ราก ปกติ 9,000 บาท
โกรธแฟคเตอร์กระตุ้นการติดของผม 3 ครั้ง ปกติ 15,000 บาท
ตรวจเลือดก่อนผ่าตัด ราคา 5,000 บาท
ยากลับบ้าน ราคา 550 บาท

รวมราคา 329,550 บาท

ราคาเคสรีวิว 99,000 บาท ลด 70%

@LINE รับสิทธิพิเศษ